ยาจีนน่ารู้

สมุนไพร “ใบบัว”

ใบบัว (荷叶) เป็นสมุนไพรที่น่าสนใจ หาง่าย ประหยัด และเหมาะสำหรับคนในยุคปัจจุบันที่ต้องการความงามและมีสุขภาพดี ข้อควรรู้เกี่ยวกับใบบัว ใบบัวที่ดีต้องใบใหญ่ สีเขียวหมดจด ไม่มีรอยตำหนิ หรือไม่เป็นใบที่เหลือง ขนาดเล็ก เหี่ยวแห้ง ต้องกินก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง ช่วยลดความอยากอาหารพวกเนื้อสัตว์ ใบบัวสด ฤทธิ์การลดน้ำหนัก ด้อยกว่าใบแห้งหรือใบเกรียม แต่ฤทธิ์ในการขับความร้อนออกจากร่างกายดีกว่า ปริมาณที่ใช้ แบบสด 30-60 กรัมต่อวัน แบบแห้ง ต้มเป็นชาดื่ม 15-30 กรัมต่อวัน แบบเผาเกรียม 10-20 กรัมต่อวัน ควรงดกินก่อนมีประจำเดือน เพราะจะทำให้เลือดประจำเดือนมีน้อยลง คนที่บวมน้ำ กินแล้วปัสสาวะจะมากขึ้น สามารถขับน้ำลดบวมได้ เป็นสมุนไพรสุขภาพ สำหรับคนอ้วน ไขมันในเลือดสูงมาก หลอดเลือดแข็งตัว ไขมันพอกตับ รวมทั้งผู้สูงอายุ สรรพคุณของใบบัว (荷叶) ลดน้ำหนักทำให้ผอม ปรับลดไขมันในเลือด ช่วยเสริมการลดภาวะความดันโลหิตสูง ป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด ป้องกันรักษาภาวะไขมันพอกตับ ขับความร้อนจากร่างกาย ทำให้สดชื่น ขับน้ำลดบวม, หยุดเลือด ทำไมใบบัวจึงลดน้ำหนักได้? คนอ้วนหรือคนที่มีไขมันสะสม แพทย์แผนจีนมองว่า …

สมุนไพร “ใบบัว” Read More »

5 เรื่องควรรู้ ก่อนดื่ม “ชา”

ชาเขียว มีฤทธิ์ค่อนไปทางเย็นหรือเย็นมาก มีสรรพคุณระบายความร้อน ขับไฟออกจากร่างกาย ควรจะต้องเป็นไฟหรือความร้อนส่วนเกิน (ไม่ใช่ความร้อนของพลังหยางของร่างกาย) โดยเฉพาะความร้อนบริเวณส่วนบนของร่างกาย เช่น ช่องปาก ตา คอหอย เรื่องควรรู้..ก่อนดื่มชา 1. ชาเขียวไม่เหมาะสมกับคนที่มีภาวะหยางของไตพร่อง (พลังหยางน้อย) เพราะชาเขียว มีฤทธิ์ค่อนไปทางเย็นหรือเย็นมาก มีสรรพคุณระบายความร้อน ขับไฟออกจากร่างกาย ควรจะต้องเป็นไฟหรือความร้อนส่วนเกิน (ไม่ใช่ความร้อนของพลังหยางของร่างกาย) โดยเฉพาะความร้อนบริเวณส่วนบนของร่างกาย เช่น ช่องปาก ตา คอหอย จึงจะทำให้ร่างกายด้านล่าง เย็น เป็นตะคริว  ปวดเมื่อยเอว และเข่าไม่มีกำลัง ปัสสาวะบ่อย กล้ามเนื้อขาอ่อนกำลัง 2. ไม่ควรดื่มชาที่แช่เย็น เพราะจะทำให้ทำลายหยางชี่ได้รุนแรงขึ้น (เพราะชาก็เย็นอยู่แล้วยังอยู่ในสภาพเย็นอีก) 3. ไม่ควรดื่มชาขณะท้องว่าง ควรดื่มหลังอาหารเท่านั้น ทำให้กระเพาะอาหารกระทบความเย็นโดยตรง การดูดซึมของชาเข้าสู่ร่างกายรวดเร็ว ทำลายร่างกายได้เร็วขึ้น สังเกตได้เวลาดื่มชาขณะท้องว่าง จะทำให้ปวดท้อง ใจสั่น คลื่นไส้ได้ 4. ไม่ควรดื่มชาแก้วใหญ่ๆ ดื่มตลอดวัน หรือดื่มแทนน้ำ ควรดื่มชาอุ่น 2 – 5 …

5 เรื่องควรรู้ ก่อนดื่ม “ชา” Read More »

“ถั่วเขียว” อาหารสุขภาพหน้าร้อน

แพทย์จีนในสมัยราชวงศ์ถัง ได้บรรยายถึงสรรพคุณของถั่วเขียวไว้ว่า “สรรพคุณ  เสริมบำรุงหยวนซี่ ปรับประสาน 5 อวัยวะภายใน สงบจิตประสาท วิ่งเส้นลมปราณ 12 เส้น ขับลมที่มากระทำจากภายนอก  ลดน้ำตาลในเลือด ทำให้ผิวนุ่ม ลดบวม รับประทานได้ต่อเนื่องนานๆ”  (绿豆有补益元气,调和五脏,安精神,行十二经脉., 去浮风,止消渴,利肿胀) คัมภีร์ “เปิ่นเฉ่ากังมู่” (本草纲目 ) ก็ได้กล่าวถึงสรรพคุณของถั่วเขียวไว้ว่า “เป็นยาลดบวม ขับพิษ ขับร้อน แก้ร้อนจากแดด และอาการกระหายน้ำ บำรุงจิตประสาทและหยวนซี่ เข้าเส้นลมปราณ หัวใจ กระเพาะอาหาร” ยังเหมาะกับคนที่ไขมันในเลือดสูง  ความดันโลหิตสูง  ขับพิษจากตับ  ยับยั้งการแบ่งตัวของแบคทีเรีย  เหมาะกับทุกวัย รวมถึงเด็กและผู้ใหญ่ เทคนิคการต้มถั่วเขียวให้ได้คุณภาพ “ถั่วเขียว” ถ้าต้มไม่เป็นเนื้อจะไม่สุก ต้มมากไปเนื้อจะเละ การต้มต้องไม่ให้ถั่วเขียวเละ หรือทำให้น้ำต้มถั่วเขียวมีลักษณะขุ่น เพราะจะทำให้ขาดสรรพคุณและรสชาติที่อร่อย ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำในการต้มถั่วเขียว ล้างถั่วเขียวให้สะอาด เอาไปแช่ในน้ำที่เดือดแล้ว 20 นาที แล้วกรองเอาน้ำทิ้ง นำไปต้มกับน้ำเย็นในหม้อด้วยไฟที่แรง นาน 40 นาที …

“ถั่วเขียว” อาหารสุขภาพหน้าร้อน Read More »

อาหารลดความอ้วน ในทัศนะแพทย์แผนจีน

ความอ้วน  ในมุมของแพทย์แผนจีน  ส่วนใหญ่มาจากพื้นฐานร่างกาย เสียสมดุล  คือ ภาวะพลังพร่อง  หรือภาวะหยางพร่อง (ร่างกายเย็น พลังความร้อนที่ให้ความอบอุ่นและการเผาผลาญร่างกายน้อยลง)  ทำให้มีการตกค้างของน้ำและอาหาร เกิดการสะสมเป็นเสมหะน้ำและความชื้น  นานๆเข้าตามมาด้วยภาวะเลือดอุดกั้นและเกิดความร้อนไปรบกวนระบบการไหลเวียนของพลังลมปราณ กระทบถึงอวัยวะภายใน ทำให้เกิดโรคต่างๆตามมามากมาย การแบ่งประเภท ความอ้วนที่พบบ่อยแบบแพทย์แผนจีน คนอ้วนที่เกิดจากอวัยวะม้ามหรือระบบการย่อยดูดซึมมีปัญหา  สาเหตุมาจาก ความอ่อนแอของอวัยวะม้าม  หรือการกินอาหารที่มีฤทธิ์เย็น  ปริมาณอาหารที่มากเกินไป  กินอาหารไม่เหมาะสม  นานๆเข้าการย่อยดูดซึมอาหารไม่สมบูรณ์ จะมีภาวะอ้วนแบบ ท้องโต  ตัวหนัก  หัวตื้อ  แน่นหน้าอก  มีเสมหะ คนอ้วนที่เกิดจากอวัยวะไตอ่อนแอ  จะมีลักษณะ แขนขาเย็น  หนักหรือบวมช่วงล่าง  ปัสสาวะบ่อยกลางคืน  เมื่อยเข่า  ขาอ่อนแรง โรคมักพัฒนาต่อเนื่องจากอวัยวะม้ามอ่อนแอ คนอ้วนบางคน  กินเก่ง  หิวง่าย  ตัวแน่น  ขี้ร้อน  หงุดหงิด  แสบท้องเวลาหิว  ปากแห้งคอขม  คนอ้วนกลุ่มนี้  กระเพาะอาหารผลิตน้ำย่อยมากผิดปกติ  เนื่องจากไฟของกระเพาะอาหารมากเกินไป หลักการรักษาหรือเลือกอาหารสมุนไพร  ต้องแยกแยะ  ว่าเป็นโรคอ้วนประเภทไหน  ทุกรายไม่ใช่เน้นหนักที่การใช้ยาขับน้ำ  หรือยาระบาย  ต้องพิจารณาการเสริมบำรุงม้ามหรือไต  ร่วมกับวิธีการขับน้ำ  …

อาหารลดความอ้วน ในทัศนะแพทย์แผนจีน Read More »

ยาจีน ทำไมจึงมีคำกล่าวว่า “ถ้าเป็นยา มีพิษ 3 ส่วน”

ความเชื่อว่า  ยิ่งบำรุงมาก  ยิ่งมีสุขภาพดี  เป็นแนวคิดสุดโต่งด้านเดียว  ตามทัศนะแพทย์แผนจีน การดูแลสุขภาพที่แท้จริง  ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน  คือ  การเน้นเรื่องอาหารและการดำเนินชีวิต การนอน การพักผ่อน   อารมณ์ความนึกคิด (การมองโลกและการเข้าใจชีวิต) การมีเพศสัมพันธ์ที่พอเหมาะ การปฏิบัติตัวตามวิถีธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงยินหยาง (กลางวัน  กลางคืน  และฤดูกาล) การใช้ยาสมุนไพร อาหารสมุนไพร ถือเป็นตัวประกอบเสริมสำหรับคนทั่วไปที่สุขภาพดีหรือมีความเจ็บป่วยเล็กน้อย ส่วนคนที่สุขภาพไม่ดี หรือมีความเสื่อมของร่างกายมาก ซึ่งปัจจุบันมีผลจากหลายปัจจัย เช่น ภาวะมลพิษสิ่งแวดล้อม อาหาร ปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ทำให้ร่างกายทรุดโทรม จิตใจแปรปรวน เกิดภาวะที่เสียสมดุลและเป็นรากฐานของการเกิดโรคในเวลาต่อมา หรือบางรายเริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ตรวจพบว่าเป็นโรค คนประเภทนี้จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การกิน การนอน ภาวะทางจิตใจที่เหมาะสม และการบำรุงดูแลด้วยอาหารสมุนไพร หรือยาสมุนไพร แต่เนื่องจากยาสมุนไพร ใช้ฤทธิ์ที่มีความโน้มเอียงไปทางการปรับสมดุลที่รุนแรงมากกว่าอาหาร การใช้ยาสมุนไพรปรับสมดุลที่ผิดจะนำมาซึ่งการเสียสมดุลมากขึ้น หรือถ้าใช้ไปนานๆ โดยไม่เข้าใจสภาพร่างกายและตัวยาสมุนไพรที่ใช้ จะทำให้สุขภาพเสียหายมากยิ่งขึ้น ตัวอย่าง เช่น  ถั่งเช่า (冬虫夏草) เป็นสมุนไพรรสหวาน ฤทธิ์อุ่น มีสรรพคุณค่อนไปทางบำรุงหยาง (ทำให้ร่างกายอุ่นร้อนขึ้น) …

ยาจีน ทำไมจึงมีคำกล่าวว่า “ถ้าเป็นยา มีพิษ 3 ส่วน” Read More »

น้ำปัสสาวะ นํ้ามหัศจรรย์รักษาโรค

เรื่องของน้ำปัสสาวะสามารถรักษาโรคได้สารพัด ถูกเผยแพร่ออกสู่สาธารณะอย่างครึกโครมเป็นระยะๆ จำได้ว่า ขึ้นเป็นข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2535 โดยบรรยายสรรพคุณว่าสามารถรักษาโรคได้ ตั้งแต่โรคง่ายๆ เช่น หวัดไปจนถึงโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง โดย การศึกษาวิจัยของสถาบัน MCL (miracle cup of liquid แปลว่า น้ำในถ้วยมหัศจรรย์) ของญี่ปุ่น ขณะเดียวกันก็พบว่า มีการตื่นตัวแปลหนังสือเผยแพร่เป็นภาษาต่างประเทศทั่วโลกในขณะที่แพทย์สมัยใหม่หลายคนออกมาคัดค้านว่า ความเชื่อในเรื่องน้ำปัสสาวะเป็นน้ำมหัศจรรย์ ไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน ความวิเศษตามที่กล่าวอ้างในชีวิตจริง ผู้เขียนเคยพบเห็นผู้ที่ใช้น้ำปัสสาวะเพื่อรักษาโรคเรื้อรัง ของตนเองตามความเชื่อ เนื่องจากผู้ป่วยพบว่าไม่สามารถหาทางออกได้จากการรักษาโดยการแพทย์แผนปัจจุบัน จึงตัดสินใจลองรักษาตัวเองโดยวิธีนี้ บทความที่จะเขียนต่อไปนี้ คงไม่สามารถให้คำตอบที่เบ็ดเสร็จว่า น้ำปัสสาวะจะสามารถแก้ปัญหาโรคภัยไข้เจ็บบางอย่าง ตามที่มีผู้กล่าวอ้างจริงหรือไม่ ในขณะเดียวกัน ก็ไม่อาจจะสรุปลงไปเลยว่า น้ำปัสสาวะ ไม่มีคุณค่าใดๆเลยต่อการรักษาโรค บทความนี้ทำหน้าที่เสนอ เล่าสู่กันฟังถึงความเชื่อ และการใช้ น้ำปัสสาวะมารักษาโรคที่การแพทย์แผนจีนได้มีการบันทึกกล่าวไว้เพื่อเป็นข้อมูลในการเข้าใจถึงประสบการณ์ของคนจีน คงจะเป็นประโยชน์ แก่ผู้สนใจไม่มากก็น้อย การรักษาโรคด้วยน้ำปัสสาวะ หมายถึง การนำน้ำปัสสาวะของคนหรือสัตว์ (ส่วนที่เป็นน้ำใสและองค์ประกอบในน้ำปัสสาวะ) มา ใช้ดื่มเพื่อเข้าสู่ภายในร่างกาย หรือใช้ภายนอกในการรักษาโรคที่ได้มีการสืบทอดกันมา ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการรักษาโรคด้วยน้ำปัสสาวะบันทึกไว้ว่า …

น้ำปัสสาวะ นํ้ามหัศจรรย์รักษาโรค Read More »

แพทย์แผนจีนแนะ อาหารสมุนไพรสำหรับโรคซึมเศร้า

ภาวะซึมเศร้า มักมีการแสดงออกหลายอาการหรือเป็นกลุ่มอาการ เช่น มีความภูมิใจในตัวเองลดลง  ขาดความสนใจในกิจวัตรประจำวัน   มักครุ่นคิดหรือรู้สึกถึงความไม่มีคุณค่า  ความเสียใจ หรือรู้สึกผิดอย่างไม่มีเหตุผล หมดหวัง สมาธิแย่ลง นอนไม่หลับ  ความจำสั้น  แยกตัวออกจากสังคม  ความต้องการทางเพศลดลง  บางรายมีความคิดเกี่ยวกับความตายหรือการฆ่าตัวตาย แพทย์แผนจีนให้ความสำคัญของภาวะทางอารมณ์ที่มากระทบอย่างรุนแรงหรือยาวนาน จะมีผลต่อกลไกการเคลื่อนไหวของพลัง ทำให้เป็นผลร้าย กระทบต่ออวัยวะภายในที่แน่นอน  เช่น อารมณ์โกรธทำลายตับ, อารมณ์วิตกกังวลทำลายม้าม,   อารมณ์ดีใจทำลายหัวใจ อารมณ์เศร้าโศกเสียใจทำลายปอด อารมณ์กลัวทำลายไต ภาวะทางอารมณ์  โดยเฉพาะอารมณ์เก็บกดหงุดหงิด   จากการคิดกังวลมากเกินปกติ  จะเกิดการติดขัดของการไหลเวียนพลังของอวัยวะตับ   นานเข้าเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นความร้อน   และนำไปสู่ภาวะทางจิตเป็นลักษณะของความซึมเศร้าที่มีแนวโน้มไปทางเก็บกด ไม่แสดงออก  หดหู่ซึ่งเป็นด้านยิน  หรือแนวโน้มไปทางคลุ้มคลั่ง  โวยวายซึ่งจัดเป็นด้านหยาง  ภาวะทางอารมณ์มีผลต่ออวัยวะภายในหลายอวัยวะ  มีอาการแสดงออกหลายอาการหรือเป็นกลุ่มอาการ   แพทย์แผนจีน  เรียก ภาวะซึมเศร้าว่า อื่อวี่เจิ้ง (抑郁症 ) เป็นผลจากอารมณ์ที่ไม่ได้รับการระบาย  ตับเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่ในการเก็บเลือดและระบายพลังและเลือด    ในกรณีที่ร่างกายต้องการใช้พลังและเลือดเพิ่มเติม    เพื่อการปรับเปลี่ยนอารมณ์ในการตอบสนองต่อสิ่งเร้า   พลังตับที่ไม่ถูกระบายหรือกลไกพลังติดขัด เรียกว่า พลังตับอุดกั้น  การแก้ไขคือต้องให้มีการระบายพลังตับ  ขณะเดียวเดียวกันยังต้องเสริมบำรุงพลังของม้าม (ช่วยการย่อยและดูดซึม) รวมทั้งการบำรุงหัวใจ  ทำให้จิตใจสงบ กลุ่มอาหารที่มีฤทธิ์ช่วยการย่อยเสริมม้ามช่วยนอนหลับ  คือ  …

แพทย์แผนจีนแนะ อาหารสมุนไพรสำหรับโรคซึมเศร้า Read More »

สมุนไพรจีน กับสารสกัดจากสมุนไพร

กระบวนการของการเกิดโรค บางโรคกว่าจะแสดงอาการใช้เวลานานค่อยๆ สะสมทางปริมาณจนถึงจุดเปลี่ยนแปลงทางคุณภาพ แต่บางโรคเกิดขึ้นทันที  ส่วนยาที่ใช้รักษาก็มีทั้งยาตำรับใหญ่  ตำรับเล็ก  มีพิษและไม่มีพิษ จึงต้องวิเคราะห์ให้ถ่องแท้ ยาที่มีพิษมากใช้รักษาโรค 10 ส่วน สามารถขจัดโรคได้แค่ 6ยาที่มีพิษธรรมดาใช้รักษาโรค 10 ส่วน สามารถขจัดโรคได้แค่ 7ยาที่มีพิษน้อยใช้รักษาโรค 10 ส่วน สามารถขจัดโรคได้แค่ 8ยาที่ไม่มีพิษใช้รักษาโรค 10 ส่วน สามารถขจัดโรคได้แค่ 9แต่การกินอาหารบางประเภท เช่น ธัญพืช เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ เพื่อดูแลสุขภาพสามารถขจัดโรคได้ทั้งหมด ข้อสรุปก็คือ ขึ้นชื่อว่ายาแล้ว ล้วนมีพิษ การกินอาหารตามใจตัวเองก็อาจจะกลายเป็นพิษได้เช่นกัน  ควรใช้อาหารเพื่อช่วยในการรักษาโรค แต่เมื่อไม่ได้ผลจึงค่อยคิดถึงการใช้ยายาที่มีพิษด้านหนึ่งรักษาโรค แต่ก็มีผลกระทบต่อร่างกาย จึงไม่สามารถกำจัดโรคได้อย่างสิ้นเชิง ต้องกินอาหารที่เหมาะสมเสริมเข้าไปเพื่อสร้างสมดุลภายในร่างกาย ศาสตร์ของแพทย์แผนจีนให้ความสำคัญต่ออาหารเป็นอย่างมาก เพราะอาหารบางอย่างในบางเงื่อนไขก็คือยาพิษ ที่สามารถทำลายร่างกายหรือทำให้โรครุนแรงขึ้นได้เช่นกัน อาหารอย่างดีก็เป็นพิษ มีเรื่องเล่ากันว่า ในสมัยราชวงศ์หมิง กษัตริย์จูหยวนจางได้ทำการหาเหตุฆ่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ และครอบครัว ๙ ชั่วโคตร มีแต่ซวีต๋า เท่านั้นที่ยังหาเหตุผลในการฆ่าไม่ได้ เนื่องจากเป็นเพื่อนในช่วงวัยเยาว์ที่ดีต่อกัน อีกทั้งมีผลงานในการสู้รบที่ดีเยี่ยม และอำนาจของแม่ทัพก็ถูกถ่ายโอนแล้ว ซวีต๋าอยู่ในช่วงระหว่างพักผ่อนในบั้นปลายชีวิต …

สมุนไพรจีน กับสารสกัดจากสมุนไพร Read More »

ถั่งเช่า สมุนไพรที่ใครๆก็ร่ำลือ

ถั่งเช่า เป็นสมุนไพรที่ร่ำลือกันมากทั้งในด้านสรรพคุณของยาบำรุงร่างกาย และราคาที่แสนจะแพง ราคากิโลกรัมละหลายแสนบาท หรือ 1 กรัมราคาร่วมพันบาทเลยทีเดียว สมุนไพรจีนที่ถือว่าเป็น 4 สุดยอดหญ้าเทวดา ( 四大仙草) คือ เหรินเซิน (โสมคน)人参, เหอโส่วอู (. 何首鸟),  เห็ดหลิงจือ ( 灵芝) ตงฉงเซี่ยเฉ่าหรือถั่งเช่า (冬虫夏草 ) สมุนไพรจีนที่ถือว่าเป็น 3 สุดยอดของยาบำรุง ( 三大补品 ) คือ เหรินเซิน (โสมคน) 人参, ลู่หยง鹿茸 (เขากวางอ่อน) ตงฉงเซี่ยเฉ่าหรือถั่งเช่า (.冬虫夏草)   ดังนั้นราแมลง หรือถั่งเช่า จึงเป็นยาสมุนไพรที่เชื่อว่า เป็นสุดยอดของสมุนไพรจีนทีเดียว     การกำเนิดของสมุนไพร ถั่งเช่า จากหนอนผีเสื้อค้างคาวที่โตเต็มที่ในฤดูหนาว และถูกเชื้อราเจาะเข้าไปฟักตัวภายในจนตัวหนอนตาย เมื่อเชื้อราโตเต็มที่ในช่วงต้นฤดูร้อน เปลี่ยนสภาพเป็นต้นหญ้า ถั่งเช่าจึงเป็นสมุนไพรที่มีพื้นฐานการแปรเปลี่ยนของพลังจากตัวหนอนและเชื้อราเข้าด้วยกัน เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์กลาง ค่อนอุ่น รสหวาน เข้าเส้นลมปราณ ปอด …

ถั่งเช่า สมุนไพรที่ใครๆก็ร่ำลือ Read More »

ทำไมแพทย์จีนวินิจฉัยว่า เลือดคั่งค้างอุดกั้น

ภาวะเลือดคั่งค้างอุดกั้น เป็นภาวะที่เลือดหยุดนิ่ง ไหลเวียนช้าลง ไม่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกาย หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด เป็นก้อน มีเลือดออก ลิ้นเขียวม่วง อาการสำคัญที่ตรวจพบ และอาการร่วมอื่นๆ อาการเด่นที่สำคัญ คือ เจ็บเหมือนเข็มแทง มีก้อนแข็ง มีเลือดออกเป็นสีม่วงคล้ำ ริมฝีปาก ลิ้น เล็บเขียวม่วง อาการรวมอื่นๆ ได้แก่ ปวดเหมือนมีดแทง ตำแหน่งแน่นอน กดเจ็บ ปวดมากตอนกลางคืน มีก้อนแข็ง กดแล้วไม่เคลื่อนที่ เลือดออกหยุดๆ หายๆ (กะปริด-กะปรอย)  สีม่วงคล้ำ หรือร่วมกับเป็นก้อนเลือด อุจจาระสีดำมีลักษณะคล้ายน้ำมันสน ใบหน้าดำ ผิวหนังเป็นสะเก็ด เล็บ ริมฝีปากเขียวม่วง ในสตรีประจำเดือนอาจขาดหายไปหรือประจำเดือนผิดปกติ ลักษณะของลิ้น ลิ้นสีม่วงคล้ำ มีรอยจ้ำเลือด หรือหลอดเลือดดำใต้ลิ้นขดงอ และขยายตัว ชีพจรเล็กฝืดหรือไม่เป็นจังหวะ สาเหตุของเลือดตกค้างอุดกั้น กลไกพลังติดขัด พลังติดขัดทำให้เลือดไม่ไหลเวียน เลือดเย็นทำให้เลือดเกาะตัว การไหลเวียนช้าลง เลือดร้อนทำให้เลือดข้นเหนียว เกิดความหนืดเลือดไหลไม่คล่อง พลังพร่องไม่มีกำลัง เลือดไม่มีแรงผลักดัน อุบัติเหตุกระทบกระแทก หกล้ม ให้ช้ำในเลือดตกค้าง …

ทำไมแพทย์จีนวินิจฉัยว่า เลือดคั่งค้างอุดกั้น Read More »

ทำไม? ในยาสมุนไพรมี สเตียรอยด์

“เป็นเรื่องแปลก แม้ว่าจะพบสมุนไพรจำนวนมากในท้องตลาด ที่แอบใส่ สเตียรอยด์ เข้าไป แต่มักจะหาแหล่งผลิตยาก เพราะผู้ผลิตจำหน่ายมักไม่ใช่หมอ (ผลิตเพื่อการค้า) และหมอที่มีความรู้จริงก็ไม่รู้จะใส่สเตียรอยด์เข้าไปเพื่อเหตุผลใด เพราะผิดทั้งกฎหมายและจะถูกยึดใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะได้ ที่สำคัญผู้ป่วยสามารถนำหลักฐานเพื่อร้องเรียนตัวหมอได้ง่าย เพราะมีเจ้าภาพที่เป็นตัวตน” “ดิฉันรู้ดีว่าคุณหมอไม่ได้ใส่สเตียรอยด์สังเคราะห์เข้าไปในยาจีนหรอกคะ แต่อดสงสัยไม่ได้ว่าสมุนไพรจีนหลายตัวที่มีผลวิจัยพบว่า มี สเตียรอยด์ ธรรมชาติ ถ้าดิฉันกินเข้าไปจะสะสมทำให้อ้วนหรือเปล่า? ยาสมุนไพรจีนที่มีสเตียรอยด์ธรรมชาติน้อย มีฤทธิ์ไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างสเตียรอยด์ของร่างกายเองได้อย่างไร หลักการที่ถูกต้อง ถ้าสเตียรอยด์ที่สร้างโดยร่างกายเอง สามารถปรับการสร้างและผลิตให้เหมาะสมกับภาวะต่างๆ ของผู้ป่วยได้อย่างสมดุลนับว่าดีที่สุด ยาสมุนไพรจีนบางอย่าง ไม่ได้มีฤทธิ์สเตียรอยด์โดยตรง แต่สามารถทำให้ร่างกายเกิดการสร้างสเตียรอยด์ได้ดีในภาวะจำเป็น เช่น ปี พ.ศ.๒๕๓๖ ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติของจีน พบว่านักวิ่งหญิงจีน 9 คน วิ่งทำลายสถิติโลก สร้างความแปลกใจแก่ผู้สังเกตการณ์ทั่วโลกซึ่งเชื่อว่าเป็นผลของการใช้สารสเตียรอยด์อย่างแน่นอน ภายหลังตรวจสอบไม่พบสารสเตียรอยด์ และนักกีฬาทุกคนก็ไม่มีอาการภายนอกที่แสดงออกของการใช้สเตียรอยด์ โค้ชทีมได้เฉลยข้อข้องใจว่า มีการบำรุงสมุนไพร ตง-ฉง-เซี่ย-เฉ่า ซึ่งมีกลไกออกฤทธิ์ไปกระตุ้นพลังปอด ซึ่งพบว่าสมุนไพรตัวนี้มีบทบาทหลายด้าน เช่น แก้โรคหืด เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจทำให้ร่างกายมีพลัง ทั้งที่ไม่มีสารสเตียรอยด์ธรรมชาติเป็นตัวประกอบหลัก แสดงว่าการออกฤทธิ์ต่อระบบอื่นๆ หลายระบบ หลายอวัยวะแล้วไปมีผลต่อการทำงานของต่อมหมวกไต ทำให้มีการสร้างฮอร์โมนออกมาได้ในยามที่ต้องใช้งานจำเป็นฤทธิ์แบบเดียวกันที่พบในโสมคนหรือโสมไซบีเรียที่มีผลต่อการเสริมพลังการทำงานของหัวใจ การควบคุมระดับ น้ำตาลในเลือด การเสริมการทำงานของต่อมหมวกไต ข้อแตกต่างระหว่างการใช้สเตียรอยด์สังเคราะห์กับการใช้ยาสมุนไพรจีนคืออะไร …

ทำไม? ในยาสมุนไพรมี สเตียรอยด์ Read More »

ยาสมุนไพรจีนมี สเตียรอยด์ จริงหรือ

ผู้ป่วยบางคนรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันตั้งนาน เลยคิดอยากจะเปลี่ยนไปหาแพทย์ทางเลือกอย่างเช่นแพทย์แผนจีน พอไปปรึกษาแพทย์มักจะได้คำตอบว่า “ไม่ควรไปหา เพราะยาจีนไม่ว่าจะเป็นผง แคปซูล หรือเป็นสมุนไพร มักมีส่วนผสมของ สเตียรอยด์ กินแล้วระยะแรกจะดีขึ้น แต่ใช้ไปนานๆ จะมีผลแทรกซ้อนเป็นอันตราย” ผู้ป่วยบางคนมาหาหมอจีน เมื่อหมอจ่ายยาสมุนไพรให้ผู้ป่วยบางคนจะถามหมอว่า“คุณหมอค่ะ ยาสมุนไพรจีนมี สเตียรอยด์ หรือเปล่า ที่บ้านเขาไม่สนับสนุน เพราะกลัวใส่ สเตียรอยด์ แล้วเป็นอันตราย” เมื่อไม่นานนี้ มีผู้ป่วยรายหนึ่งไปออกรายการโทรทัศน์ให้สัมภาษณ์ในรายการดังกระจายไปทั่วประเทศว่า ได้ไปรักษาด้วยยาสมุนไพรจีน 2-3 เดือน เกิดอาการไม่พึงประสงค์หลายอย่าง เช่น เบาหวาน โรคอ้วน ซึ่งสรุปว่าเป็นเพราะยาสมุนไพรจีนมี สเตียรอยด์ หรือผสม สเตียรอยด์ เข้าไป ทำให้เกิดโรคที่เรียกว่า คุชชิง (กลุ่มอาการ คุชชิง หรือ Cushing’s syndrome) การประชุมวิชาการประจำปีของแพทย์แผนจีน ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่28-29 เมษายน 2548 ได้จัดให้มีการอภิปรายในหัวข้อ “สเตียรอยด์ ในสมุนไพรจีน” มีผู้เชี่ยวชาญจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เภสัชกรหญิงทัศนีย์ โชคเจริญรัตน์ จากสถาบันการแพทย์ไทย-จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ …

ยาสมุนไพรจีนมี สเตียรอยด์ จริงหรือ Read More »

อาการปวดและการรักษาอาการปวด ด้วยแพทย์แผนจีน

แพทย์แผนจีนอธิบายสาเหตุของอาการปวดเกิดจากการไหลเวียนของเลือดและพลังลมปราณในเส้นลมปราณ (Meridian) ติดขัด ไม่คล่อง : ความคล่อง-ไม่ติดขัด (ของเลือดและพลัง) ทำให้ไม่เจ็บปวดการปวดก็เพราะการติดขัด-ไม่คล่อง (ของเลือดและพลัง) ลักษณะการปวดแบบแพทย์แผนจีน 1. การปวดแบบเคลื่อนที่ เช่นการปวดตามข้อ และเปลี่ยนตำแหน่ง เป็นๆ หายๆ เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เหมือนลม เรียกว่า ปวดแบบลม2. การปวดแบบลึกๆ หนักๆ เหมือนผ้าชุบน้ำ เรียกว่า ปวดแบบความชื้น3. การปวดแบบอักเสบ บวม แดง ร้อน เรียกว่า ปวดแบบร้อน4. ปวดแบบรุนแรงมาก โดยเฉพาะเวลากระทบความเย็น เรียกว่า ปวดแบบเย็น5. ปวดแบบเข็มแทง เฉพาะที่ เป็นมากตอนกลางคืน เรียกว่า ปวดแบบเลือดคั่ง6. ปวดแบบเรื่อยๆ ไม่รุนแรง เป็นมากเวลาอ่อนเพลีย เรียกว่า ปวดแบบร่างกายพร่องอ่อนแอ ตำแหน่งการปวด บอกถึงการกระทบกระเทือน เส้นลมปราณอะไร เช่น 1. ปวดบริเวณหน้าผาก – ปวดเส้นลมปราณหยางหมิง2. ปวดศีรษะด้านข้าง – ปวดเส้นลมปราณซ่าวหยาง3. …

อาการปวดและการรักษาอาการปวด ด้วยแพทย์แผนจีน Read More »

โคโรคหรือหนิวหวง กับตำรับยาที่น่าสนใจ

ถ้าคนชำแหละวัวบังเอิญพบว่าวัวตัวที่ถูกชำแหละมีนิ่วในถุงน้ำดีต้องเรียกว่าพบโชคลาภอันยิ่งใหญ่ ราคาของนิ่วดูเหมือนจะแพงกว่าราคาตัวของวัวทั้งตัวเสียอีก…นิ่วของวัว จึงเป็นของหายาก ไม่ใช่สิ่งที่จะพบหาได้ง่ายๆ มีความพยายามเลียนแบบธรรมชาติ ทำการผลิตหรือทำให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดีวัว เช่น นำก้อนวัตถุชิ้นเล็กๆ เพื่อเป็นเชื้อใส่เข้าไปในถุงน้ำดี และเย็บปิดถุงน้ำดีเพื่อให้ก้อนนิ่วๆค่อยๆก่อตัวในถุงน้ำดี หรือแยกแยะส่วนประกอบของนิ่วในถุงน้ำดีของวัวที่เป็นโรค แล้วเลียนแบบผลิตนิ่วถุงน้ำดีโดยอาศัยสัดส่วนตามที่แยกแยะได้ อย่างไรก็ตามคุณภาพนิ่วจากฝีมือมนุษย์ต่อการรักษาโรคจะสู้นิ่วในถุงน้ำดีแบบธรรมชาติไม่ได้  แต่ราคาจะถูกกว่ากันมาก หนิวหวง (牛黄) ที่ใช้กันในท้องตลาดจะเป็นแบบที่มนุษย์ผลิตขึ้นมากกว่า 98% สรรพคุณของโคโรคหรือหนิวหวง (牛黄 ) – เป็นยาที่มีรสขมหวาน ฤทธิ์เย็น – เข้าสู่เส้นลมปราณหัวใจและตับ – มีสรรพคุณในการขับความร้อนของหัวใจ(รวมหมายถึงสมอง) เปิดทวาร (ทำให้ฟื้นสติ) สลายเสมหะ แก้อาการชักเกร็ง มักใช้รักษาผู้ป่วยที่มีความร้อนภายในแล้วรบกวนสมองทำให้หมดสติ (ภาวะเส้นเลือดสมองแตกแบบแกร่ง) พูดจาเพ้อ ผู้ป่วยโรคจิตประสาทที่เอะอะโวยวาย เด็กชักกระตุก แผลอักเสบในลำคอ ฟัน แผลในปากและแผลบนลิ้น ฝีหนอง การอักเสบต่างๆ ของร่างกาย ช่วยกระตุ้นการขับน้ำดีปกป้องตับ ขนาดที่ใช้    :   ครั้งละ 0.2 – 0.5 กรัมโดยใช้ผสมเป็นลูกกลอนรับประทาน (ไม่ใช้การต้ม) ข้อควรระวัง  :   หลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์ และคนที่ไม่มีภาวะร้อนแกร่ง (ต้องเป็นไข้ตัวร้อนหรืออักเสบ …

โคโรคหรือหนิวหวง กับตำรับยาที่น่าสนใจ Read More »

อาหารบำรุง สมรรถภาพทางเพศ

ความต้องการทางเพศและการสืบพันธุ์เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ สมรรถภาพทางเพศและความสามารถในการสืบพันธุ์ขึ้นอยู่กับอวัยวะภายใน คือ ไตเป็นสำคัญ (ไตในทรรศนะแพทย์แผนจีนมีเกี่ยวข้องกับระบบฮอร์โมน ) พลังไตเริ่มจากอ่อนแอในตอนเด็ก ค่อยๆ พัฒนาเติบโต แข็งแรงจนถึงวัยหนุ่มสาว วัยฉกรรจ์ และกลับอ่อนแออีกครั้งเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ความสมบูรณ์ของพลังไตในผู้หญิงเมื่อถึงจุดหนึ่งประมาณอายุ 14 ปี ก็ทำให้เกิดประจำเดือน การสมบูรณ์ของพลังไตในผู้ชายเมื่อถึงจุดหนึ่งก็แสดงออกด้วยการมีการหลั่งน้ำอสุจิประมาณอายุ 16 ปี เมื่อถึงวัย 40 ของเพศชายและวัย 35 เพศหญิงพลังไตเริ่มต้นอ่อนแอ ความต้องการทางเพศจะเริ่มลดลง  จนถึงช่วงวัยทอง และลดลงเด่นชัดของผู้หญิงคือภาวะหมดประจำเดือนประมาณช่วงอายุ 49 ปี ในขณะที่ผู้ชายมีการลดลงของเชื้ออสุจิประมาณช่วงอายุ 64 ปี เมื่อพลังของไตลดถอยลง จนเกือบหมดสิ้น ความสามารถในการเจริญพันธุ์ก็หมดไปด้วย ความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ อาจถือเป็นธรรมชาติก็ได้ หรือาจถือเป็นโรคได้ กล่าวคือ ถ้ามีการดูแลและเข้าใจกฎเกณฑ์ของการทำงานของไต (ในทรรศนะการแพทย์แผนจีน) และจัดการกับปัญหาทางเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้อง ก็จะทำให้พลังไตเสื่อมช้า มีสมรรถภาพทางเพศที่ดีอยู่ได้นาน ถ้าจัดการไม่ถูกต้องก็จะมีการเสื่อมสมรรถภาพเร็ว ทั้งๆ ที่ไม่ถึงเวลาอันควร อาหารและสมุนไพรที่มีสรรพคุณบำรุงไต คัมภีร์ “เสิ่นหนงเปิ่นเฉ่าจิง” (神农本草经)ได้บรรยายสรรพคุณของยาบำรุงไตว่า  “จะช่วยบำรุงให้ไตแข็งแรง เพิ่มสารจิง เสริมการทำงานของหยาง ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ” …

อาหารบำรุง สมรรถภาพทางเพศ Read More »